30-05-2023
ในการก่อสร้างอาคารในปัจจุบัน เราสามารถเห็นการใช้งานตะแกรงเหล็กไวร์เมช มาทดแทนการใช้เหล็กเส้นในส่วนของเหล็กเสริมล่าง ได้มากขึ้นเรื่อยๆ เช่น พื้นโรงงาน , พื้น Post-tension และถนนคอนกรีต เป็นต้นฯ เนื่องจากตะแกรงเหล็กไวร์เมช สามารถประหยัดเวลาและต้นทุนได้มากกว่าเป็นไหนๆ แต่ในการหันมาใช้ตะแกรงเหล็กไวร์เมช แทนเหล็กผูกก็อาจมีวิธีการใช้งานและหลักการคำนวณบางอย่างที่แตกต่างกัน หนึ่งในเรื่องที่หลายคนสงสัยมากคือ “การต่อทาบตะแกรงเหล็กไวร์เมช” ควรมีระยะเท่าไหร่จึงจะเหมาะสมและไม่ก่อให้เกิดปัญหาในภายหลัง การต่อทาบตะแกรงเหล็กไวร์เมช ตะแกรงเหล็กที่ใช้เป็นเหล็กเสริมในแผ่นพื้น จะต้องมีการต่อทาบ ดังนี้ 1. ควรหลีกเลี่ยงการต่อลวดโดยใช้วิธีทาบ ณ บริเวณที่มีหน่วยแรงสูงสุด (ตำแหน่งที่ลวดพื้นรับแรงเกินกว่าครึ่งของหน่วยแรงที่ยอมให้) แต่ถ้าจำเป็นจะต้องใช้การต่อวิธีนี้ ต้องมีระยะทาบของตะแกรงไม่น้อยกว่าระยะเรียงของเส้นลวดบวกเพิ่มอีก 5 เซนติเมตร 2. การต่อลวดตะแกรงที่รับแรงไม่เกินครึ่งหนึ่งของหน่วยแรงที่ยอมให้จะต้องมีระยะทาบไม่น้อยกว่า 5 เซนติเมตร อ้างอิง: มาตรฐานสำหรับอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กโดยวิธีหน่วยแรงใช้งาน (วสท. 011007-19) และทางสยามลวดเหล็กฯ ก็มีตะแกรงเหล็ก ไวร์เมช ที่ผ่านมาตรฐาน มอก. 737 ตอบโจทย์เรื่องคุณภาพ, ความปลอดภัย, รวดเร็ว และยังมีบริการการออกแบบ CAD, การจัดสรรงบประมาณ, แถมมีวิศวกรให้คำปรึกษาฟรี!! ดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม: https://www.siw.co.th/th/product-detail/wire-mesh
05-07-2023
เสาเข็มควรเจาะลึกแค่ไหน? บ้านจึงปลอดภัยเสาเข็มเป็นส่วนสำคัญที่ใช้ในการรับน้ำหนักและถ่ายน้ำหนักของอาคารไปชั้นดิน การถ่ายน้ำหนักของเสาเข็มนั้นเกิดขึ้นระหว่างแรงเสียดทานระหว่างดินกับพื้นผิวของเสาเข็ม หรือโดยการถ่ายแรงโดยตรงไปยังชั้นดินหรือหินแข็ง วัตถุประสงค์หลักของการใช้เสาเข็มคือป้องกันอาคารหรือบ้านให้มีเสถียรภาพหรือทรุดลงในดินเสาเข็มที่ใช้ในอาคารขนาดเล็กจะเป็นเสาเข็มที่มีความยาวไม่มากและจำนวนไม่มาก แต่ในอาคารขนาดใหญ่ก็จะใช้เสาเข็มจำนวนมากขึ้นหรือเสาเข็มที่ยาวมากขึ้นเพื่อให้สามารถถ่ายน้ำหนักลงไปยังชั้นดินที่ลึกและรับน้ำหนักแบกทานได้มากขึ้น ถ้าเสาเข็มยาวถึงระดับชั้นดินแข็ง เสาเข็มจะสามารถรับน้ำหนักจากอาคารและถ่ายลงสู่ชั้นดินแข็งโดยตรง เสาเข็ม สามารถรับน้ำหนักได้อย่างไรเสาเข็มรับน้ำหนักที่กดทับได้ด้วยแรง 2 ชนิดหลักๆ คือ “แรงเสียดทานที่ผิวของเสาเข็ม (Skin friction)”และ “แรงต้านที่ปลายเสาเข็ม (End Bearing)”1. แรงเสียดทานที่ผิวของเสาเข็ม (Skin Friction) แรงต้านที่เกิดจากแรงเสียดทานระหว่างผิวของเสาเข็มกับดินโดยรอบ ซึ่งแรงที่เกิดขึ้นนี้จะมาก หรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับชนิดของดินแต่ละชนิด (ดินแต่ละชนิดจะมีสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานผิวต่างกัน) และลักษณะผิวของเสาเข็มแต่ละประเภท2. แรงต้านจากชั้นดินแข็ง (End Bearing คือ แรงต้านที่เกิดขึ้นบริเวณปลายเสาเข็ม ซึ่งแรงนี้เกิดจากดินที่มารองรับที่ปลาเสาเข็ม แรงนี้จะมีปริมาณมาก หรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับชนิดของดินเช่นกันดินที่มีช่องว่างระหว่างเนื้อดินมาก (Void) ก็จะมีความสามารถในการับน้ำหนักน้อย (ดินทรุดตัวเมื่อมีน้ำหนักมากระทำ)โดยคุณสมบัติเฉพาะของดินแต่ละชนิด ส่งผลให้มีช่องว่างระหว่างเนื้อดินไม่เหมือนกัน ดินเหนียวจะมีช่องว่างระหว่างเนื้อดินมาก (ดินหลวม)จึงรับน้ำหนักได้น้อย แต่ทรายละเอียดจะมีช่องว่างระหว่างอนุภาคน้อย (ดินอัดแน่น) จึงรับน้ำหนักได้มาก ในการออกแบบเสาเข็มโดยทั่วไปนั้นหากเป็นเสาเข็มแบบ Skin friction pile จะไม่คำนึงว่าปลายเสาเข็มอยู่ที่ชั้นดินประเภทไหน แต่จะให้ความสำคัญเรื่องขนาดและความยาวเสาเข็มที่เพียงพอจะทำให้เกิดแรงฝืดรอบผิวเสาเข็มเพื่อรับน้ำหนักที่กระทำเสาเข็มแบบ End bearing pileออกแบบให้เสาเข็มมีขนาดและความยาวที่ให้ปลายเสาเข็มนั่งอยู่บนชั้นทรายอัดแน่น ประเภทของเสาเข็มที่ใช้ในการสร้างบ้านและอาคารสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ตามลักษณะการผลิตและการใช้งานดังนี้:1. เสาเข็มสปัน (เสาเข็มกลมแรงเหวี่ยงอัดแรง): เป็นเสาเข็มที่ผลิตโดยการปั่นคอนกรีตในแบบหล่อซึ่งหมุนด้วยความเร็วสูง ทำให้เนื้อคอนกรีตมีความหนาแน่นสูงและแข็งแกร่ง โดยมีโครงสร้างลวดเหล็กที่อัดแรงฝังอยู่ในเนื้อคอนกรีต เสาเข็มสปันสามารถตอกหรือเจาะได้หลายแบบ ช่วยลดการสั่นสะเทือนเวลาตอกและลดแรงดันของดินในขณะตอก มีขนาดและความยาวหลากหลาย เหมาะสำหรับใช้เป็นฐานรากของอาคารสูงที่ต้องการความแข็งแกร่งเพื่อป้องกันปัญหาลมแรงและแผ่นดินไหว2. เสาเข็มเจาะ: เสาเข็มเจาะใช้กรรมวิธีที่ยุ่งยากและซับซ้อนกว่าเสาเข็มสปัน โดยต้องเจาะดินและใส่เหล็กเสริมและคอนกรีตในสถานที่ที่จะใช้งานจริง มีความยาวและขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตามที่กำหนด ใช้สำหรับงานที่ต้องการความแข็งแกร่งสูง3. เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง: เสาเข็มคอนกรีตอัดแรงผลิตโดยวางคอนกรีตเข้าไปในแม่พิมพ์ที่มีลวดเหล็ก PC Wire เสริมฝังอยู่ จากนั้นคอนกรีตจะถูกอัดแรงเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง เสาเข็มคอนกรีตอัดแรงใช้ในงานสร้างที่ต้องการความแข็งแกร่งและความทนทานต่อสภาพแวดล้อม และทางสยามลวดเอง ก็มี PC WIRE มอก. 95-2540 และ PC STRAND มอก. 420-2540 ที่ใช้เป็นหัวใจหลักของการผลิตเสาเข็มคอนกรีตอัดแรง ที่ได้รับการยอมรับ กว่า 50 ประเทศทั่วโลก รวมไปถึงบริการหลังการขายให้กับลูกค้าฟรี เช่น การเข้าไปสอบเทียบเครื่องดึงลวดให้ถึงหน้างานโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อลูกค้ามั่นใจในการใช้งานลวดอัดแรงของ สยามลวดเหล็กฯPC Wire: https://www.siw.co.th/th/product-detail/pc-wirePC Strand: https://www.siw.co.th/th/product-detail/pc-strand
01-09-2022
"สยามลวดเหล็กฯ" ได้มีการเพิ่มเครื่องทดสอบความล้าคุณภาพสูง (Fatigue testing machine) จากประเทศเยอรมนี เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ของสยามลวดเหล็กฯ ปลอดภัยและได้มาตรฐานสูงสุด ก่อนส่งมอบถึงมือลูกค้า โดยเครื่องดังกล่าว รองรับมาตรฐาน ISO/IEC 17025 จาก The National Association of Testing Authorities (NATA) มีความสามารถในการทดสอบโหลดสูงสุด 500kN สำหรับเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 4-30 มม.(หรือสูงกว่าตามต้องการ), ความถี่ 120 Hz สำหรับทดสอบลวด PC Wire, PC Strand , เหล็กเส้นมาตรฐาน : LNEC E 452, ISO15630-3, preEN10138 เป็นต้น
07-08-2023
สนิมผิวและสนิมขุมต่างกันอย่างไร?สนิมผิว คือ สนิมที่เกาะที่ผิวของเหล็กผิวของเหล็กนั้นยังไม่ถูกกัดกร่อนจนขรุขระหรือเป็นหลุมกินเนื้อเหล็กเข้าไปจากผิวไม่ทำให้เกิดความเสียหายสนิมขุม คือ สนิมซึ่งเกิดที่ผิวโลหะเป็นเวลานานแล้วทำให้ผิวโลหะโดนกัดลึกเข้าไปในเนื้อเหล็กทำให้เนื้อเหล็กเกิดความเสียหายจนไม่สามารถนำมาใช้งานได้กลไกลการเกิดสนิมเมื่อโลหะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันหรือถูกออกซิไดซ์ จะมีการกร่อนของโลหะนั้นๆ เกิดขึ้น ดังนั้นหลักของการป้องกันการกร่อนก็คือ การป้องกันไม่ให้โลหะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันนั่นเองโลหะที่มีค่าครึ่งเซลล์รีดักชันสูงที่สุดได้แก่ ทองคำจะสามารถทนต่อการกร่อนได้มากที่สุด ทองคำจึงเป็นโลหะมีค่า แพลตินัม เงิน และทองแดงที่มีค่าครึ่งเซลล์รีดักชันเป็นบวกก็มีความสามารถทนต่อการกร่อนได้ดีรองลงมา ส่วนโลหะอื่น ๆ ก็จะเป็นโลหะที่ถูกออกซิไดซ์ได้ง่าย นั่นคือมีโอกาสกร่อนได้ง่ายกว่า ตัวอย่างการกร่อนที่พบได้บ่อยและชัดเจนคือการเกิดสนิมเหล็กหรือการเกิดออกไซด์ของเหล็ก เหล็กเป็นสนิมได้ก็ต่อเมื่อมีแก๊สออกซิเจนและน้ำอยู่ด้วย ปฏิกิริยาการเกิดสนิมเหล็กค่อนข้างซับซ้อนและมีลักษณะเฉพาะตัว แต่เชื่อว่ามีขั้นตอนที่สำคัญ คือปฏิกิริยาออกซิเดชันเกิดขึ้นเมื่อพื้นผิวส่วนหนึ่งของเหล็กทำหน้าที่เป็นแอโนด ดังสมการ Fe(s) Fe2+(aq) + 2e- ออกซิเจนถูกรีดิวซ์ที่ผิวอีกส่วนหนึ่งของเหล็กซึ่งทำหน้าที่เป็นแคโทด เมื่อมีน้ำอยู่ด้วย ดังสมการ 2O2 (g) + 4H2O(l) + 8e- 8OH-(aq) และมีปฏิกิริยาต่อเนื่องต่อไปคือ 4Fe2+(aq) + 8OH-(aq) 4Fe(OH)2 (aq)ที่มา: https://il.mahidol.ac.th/e-media/electrochemistry/web/electrochem04.htm
16-08-2024
เปิดแล้ววันนี้!! บริการทดสอบคุณภาพลวดเหล็กอัดแรงจาก SIW-Testing Service Center เหมาะสำหรับผู้ผลิตหรือผู้ใช้งานลวดเหล็ก PC Wire และ PC Strand ที่ต้องการผลทดสอบคุณภาพสินค้าตามมาตรฐานต่างๆ ด้วยห้องแล็บจาก SIW ที่มีความเชียวชาญด้านการทดสอบคุณภาพลวดเหล็กอัดแรงกว่า 30 ปี สะดวก รวดเร็ว ประหยัด ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 17025 จาก NATA (National Association of Testing Authorities, Australia) รายงานผลละเอียด ชัดเจน สอบกลับได้ทุกขั้นตอน พร้อมการวิเคราะห์และข้อเสนอแนะในการปรับปรุง อุปกรณ์ทันสมัย มีประสิทธิภาพสูง ความแม่นยำมากกว่า 99.95% ปรับแต่งการทดสอบได้ยืดหยุ่น ตามความต้องการของลูกค้า รวมถึงการทดสอบที่เฉพาะเจาะจง ข้อมูลบริการ: 1. Fatigue Testing Machine (เครื่องทดสอบความล้า) - แบรนด์: Zwick Roell รุ่น HA500 - รองรับมาตรฐานการทดสอบ: AS/NZS 4672.1, AS/NZS 4672.2, BS 5896, LNEC E 542, LNEC E 453, ISO 15630 Part 3, TIS 95-2540, TIS 420-2540 - PC Wire: รับน้ำหนักสูงสุด 500 kN, รองรับตัวอย่างขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 – 22 มม. - PC Strand: รับน้ำหนักสูงสุด 500 kN, รองรับตัวอย่างขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 – 22 มม. - Deformed Bar: รับน้ำหนักสูงสุด 500 kN, รองรับตัวอย่างขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 – 40 มม. 2. Relaxation Testing Machine (เครื่องทดสอบความผ่อนคลาย) - รองรับมาตรฐานการทดสอบ: AS/NZS 4672.1, AS/NZS 4672.2, ASTM A416/A416M, ASTM A421/A421M, ASTM A881, BS 5896, ISO 15630-3, JIS G3536, TIS 95-2540, TIS 420-2540 - PC Wire: รับน้ำหนักสูงสุด 300 kN, รองรับตัวอย่างขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 – 9 มม. - PC Strand: รับน้ำหนักสูงสุด 500 kN, รองรับตัวอย่างขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 9.3 – 18.0 มม. อัตราค่าบริการทดสอบลวดโดย Testing Service Center ทำไม? ต้องเลือก SIW - Testing Service Center สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: >>คลิ๊ก<<
02-01-2025
PC Wire (Prestressed Concrete Wire) เป็นลวดเหล็กกล้าที่มีความแข็งแรงสูง ผลิตขึ้นตามมาตรฐานเพื่อใช้งานในงานก่อสร้างที่ต้องการเสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้างคอนกรีต โดย "Prestressed" หมายถึง การให้แรงดึงกับลวดเหล็กก่อนที่จะเทคอนกรีตรอบ ๆ เพื่อให้คอนกรีตสามารถรับแรงดึงได้ดีขึ้น และช่วยป้องกันการแตกร้าวของโครงสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐานอุตสาหกรรมของไทย (มอก.) สำหรับ PC Wireในประเทศไทย การผลิตและใช้งาน PC Wire ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ มอก. โดยเฉพาะ มอก. 95-2540 ซึ่งระบุข้อกำหนดต่าง ๆ เช่น คุณสมบัติของวัสดุ: PC Wire ต้องผลิตจากเหล็กกล้าคาร์บอนสูงที่ผ่านการอบชุบความร้อนและดึงเย็น เพื่อให้มีค่าความแข็งแรงและความทนทานที่เหมาะสม ขนาดและความคลาดเคลื่อน: กำหนดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของลวดเหล็กและความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้ คุณสมบัติเชิงกล: เช่น ค่าความต้านทานแรงดึง (Tensile Strength) และค่าความยืดตัว (Elongation) ที่ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน กระบวนการทดสอบ: ลวดเหล็กต้องผ่านการทดสอบต่าง ๆ เช่น การทดสอบแรงดึง การทดสอบความแข็งแรง และการตรวจสอบผิววัสดุ การปฏิบัติตามมาตรฐาน มอก. ไม่เพียงช่วยให้โครงสร้างมีความปลอดภัย แต่ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานในด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ข้อดีของ PC Wire : ความแข็งแรงสูง: PC Wire มีค่ากำลังรับแรงดึงสูงกว่าเหล็กทั่วไป ทำให้สามารถใช้งานในโครงสร้างที่ต้องการความทนทานสูงได้ ลดน้ำหนักโครงสร้าง: ด้วยคุณสมบัติที่สามารถรับแรงดึงได้สูง จึงช่วยลดปริมาณวัสดุที่ต้องใช้ในโครงสร้างได้ อายุการใช้งานยาวนาน: การเสริมกำลังด้วย PC Wire ช่วยลดโอกาสที่โครงสร้างจะเกิดการแตกร้าวและเสื่อมสภาพเร็ว มาตรฐานที่รองรับ: การผลิตตามมาตรฐาน มอก. ช่วยเพิ่มความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย การนำ PC Wire ไปใช้งาน : สะพานและทางยกระดับ: ใช้เสริมแรงในคานสะพานเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและลดโอกาสการแตกร้าว แผ่นพื้นสำเร็จรูป: ใช้ในแผ่นพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปสำหรับอาคารสูงเพื่อเพิ่มความสามารถในการรับน้ำหนัก เสาเข็มและกำแพงกันดิน: ใช้ในโครงสร้างที่ต้องการรองรับแรงดันดินหรือแรงน้ำ งานก่อสร้างโครงสร้างสำคัญ: เช่น สนามกีฬา อาคารขนาดใหญ่ หรือโครงสร้างใต้ดินที่ต้องการความมั่นคงสูง PC Wire จึงเป็นวัสดุที่ขาดไม่ได้ในงานก่อสร้างยุคใหม่ โดยเฉพาะโครงการที่เน้นความแข็งแรง ทนทาน และสอดคล้องตามมาตรฐานอุตสาหกรรมที่กำหนด สั่งซื้อ PC Wire ได้จากที่ไหน? SIW คือผู้ผลิตและจำหน่าย PC Wire ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 50 ปี ผ่านการรับรองมาตรฐาน มอก. 95-2540 และมาตรฐานสากลอีกกว่า 70+ ประเทศทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากการรับรอง Environmental Product Declaration (EPD) https://www.siw.co.th/th/product-detail/pc-wire
10-06-2025
มั่นใจทุกเส้น แข็งแรงทุกจุด ด้วยงานควบคุมคุณภาพจาก SIW เพื่อลวดเหล็กมาตรฐานระดับโลก! เพราะ “ลวดเหล็ก” ไม่ใช่แค่เส้นเหล็กธรรมดา แต่เป็นหัวใจของงานก่อสร้างที่ต้องการความแข็งแรงและปลอดภัยสูงสุด SIW ใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิต พร้อมการตรวจสอบคุณภาพอย่างเข้มข้น เพื่อให้มั่นใจว่า ลูกค้าจะได้รับลวดเหล็กที่ดีที่สุดในทุกล็อต ตรวจแรงดึง ผ่านการทดสอบแรงดึงตามมาตรฐาน ช่วยให้ลวดเหล็กของ SIW ทนต่อแรงดึงสูง ไม่เปราะ ไม่ขาดระหว่างใช้งาน เสริมความแข็งแรงให้โครงสร้างมั่นคงในระยะยาว ตรวจเส้นผ่านศูนย์กลาง ลวดเหล็กทุกเส้นผลิตอย่างแม่นยำตามมาตรฐาน ช่วยให้คำนวณปริมาณวัสดุได้แม่นยำ ประกอบงานง่าย และลดของเสีย ตรวจสอบสนิม ป้องกันสนิมตั้งแต่กระบวนการผลิต ช่วยให้งานก่อสร้างมีอายุการใช้งานยาวนาน ไม่เสี่ยงต่อการเสื่อมสภาพหรือพังทลายก่อนเวลาอันควร รับรองมาตรฐานระดับโลก SIW ผ่านมาตรฐานทั้งระดับประเทศ (มอก.) และระดับสากล (NATA) ใช้งานได้ในทุกโครงการ มั่นใจ ปลอดภัย ตรวจสอบได้ พร้อมใบรับรองคุณภาพ (QC Certificate) ทุกล็อต ลวดเหล็ก SIW ถูกเลือกใช้ในโครงการสำคัญระดับประเทศ ทั้งภาครัฐและเอกชน ด้วยคุณภาพที่สม่ำเสมอ และบริการที่เชื่อถือได้ เลือกใช้ลวดเหล็กจาก SIW ที่ผ่าน QC อย่างแท้จริง เพื่อความมั่นใจในโครงการ และอนาคตของทุกงานก่อสร้าง
เรามุ่งมั่นที่จะเป็นเลิศในด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง และเรายังมุ่งเน้นบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเป็นอันดับหนึ่ง เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์พิเศษเหนือความคาดหมาย